เรื่องความหมาย คำแปลของชื่อ คุณพ่อ คุณแม่ทุกคนล้วนให้ความสำคัญ และพยายามตั้งชื่อให้ไพเราะ มีความหมายที่ดีงาม เพื่อส่งเสริมให้ชีวิตพบกับสิ่งที่ดีงามตามคำแปล ตามความหมายของชื่อที่ใช้อยู่
อนิจจา... คนส่วนใหญ่แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่า นอกเหนือจากคำแปลนั้น ในตัวอักษรไทยตั้งแต่ ก-ฮ รวมทั้งสระ และ วรรณยุกต์ มีพลังงานของดวงดาวตามหลักโหราศาสตร์ แฝงอยู่ ตั้งแต่ ๑ ดาวอาทิตย์ ๒ ดาวจันทร์ ๓ ดาวอังคาร ๔ ดาวพุธ ๕ ดาวพฤหัส ๖ ดาวศุกร์ ๗ ดาวเสาร์ ๘ ดาวราหู ๙ ดาวเกตุ
ซึ่งอานุภาพของดวงดาวต่างๆ ที่กล่าวมานี้ จะส่งผลทางศุภเคราะห์(ผลดี) และ ทางบาปเคราะห์(ผลร้าย) แตกต่างกันออกไป
อิทธิพลของ "ชื่อ" หรือ "นามสกุล" เป็นต้นเหตุแห่งความสุข/ปัญหา ก็ได้ เพราะดวงเกิดของแต่ละคนแตกต่างกัน ชื่อ/นามสกุลที่ใช้อยู่ ก็ส่งผลต่างกันออกไป
เมื่อกาลเวลาเปลี่ยน เมื่ออายุมากขึ้น หมายถึงพลังของดวงเกิดนั้นไม่หนุนชะตาชีวิต คือดวงกำเนิดอ่อนแอ
หรือที่เข้าใจกันง่ายๆ เรียกว่าดวงตก และประกอบกับตัวอักษรของ "ชื่อ" นั้น ขัดแย้งกับดวงเกิด เรียกว่า มีดาวบาปเคราะห์ อยู่ในชื่อ/นามสกุล ที่ใช้อยู่ คือ
•จู่ๆก็มีเรื่องยุ่งยากเกิดขึ้น แบบยืดเยื้อ
•เป็นโรคที่ทางการแพทย์รักษาไม่ได้
•ปัญหาเกี่ยวกับอารมณ์ซึมเศร้า
•ชีวิตรักระทมขมขื่น ว้าเหว่
•ปัญหาอันยุ่งยากในครอบครัว
•ปัญหาการงานอันวุ่นวาย ไร้ทางแก้
•ปัญหาการเงินที่สูญสลาย
•ปัญหาที่โดนทรยศ หลอกลวง ถูกปอกลอก
•มีศัตรูแบบที่ไม่คาดคิด ประสบอุบัติเหตุ
•หากเป็นเด็กคือเรียนไม่จบ อ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง คบเพื่อนเกเร ก้าวร้าว มักมีปากเสียงกับพ่อแม่พี่น้องในครอบครัว
ปัญหาต่าง ๆ นา ๆ นี้ สามารถแก้จากหนักให้เป็นเบาได้ หรือ จากเบาให้บรรเทาพ้นทุกข์ในที่สุด
ด้วยการเปลี่ยนชื่อใหม่ ให้ถูกโฉลกสำหรับดวงเกิดโดยเฉพาะ เพื่อส่งเสริมให้เจ้าชะตา มีพลังที่ดี รับแต่สิ่งที่ดี
เป็นเพราะอะไรจึงดีขึ้น
1.เพราะตัวอาจารย์ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี และผ่านการดูดวง ตั้งชื่อ นามสกุล มาหลายหมื่นคน จึงรู้สาเหตุ สามารถวิเคราะห์ดวงของแต่ละคนได้ว่า การแก้ไขดวงชะตาให้ดีขึ้นนั้น จะต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะดวงชะตาแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป
2.การตั้งชื่อนั้นจะต้องถูกหลักโหราศาสตร์ เพื่อให้อานุภาพของดวงดาวต่างๆ ที่อยู่ในพยัญชนะ ก-ฮ รวมทั้งสระ และ วรรณยุกต์ ส่งผลดีกับดวงชะตาวันเดือนปีเกิด ของแต่ละคน
3.สิ่งสำคัญที่สุดเป็นหัวใจ เรื่องอิทธิปาฏิหาริย์โหราศาสตร์ ในการปัดเป่าเคราะห์ร้ายต่างๆ ให้มลายหายสิ้นไป เพื่อให้ชื่อใหม่เกิดความขลังศักดิ์สิทธิ์กับผู้ที่ได้รับไปใช้ หลักสำคัญที่สุดก็อยู่ที่พิธีกรรมไหว้ครู
ซึ่งทางสำนักจัดประกอบพิธีกรรมไหว้ครูโหราศาสตร์อย่างเข้มขลัง ตามหลักพระคัมภีร์พระเวทขนานแท้ เพื่อให้ทุกท่านที่ได้ชื่อใหม่ นำไปใช้แล้ว มีความสำเร็จ มีโชคดี เจริญรุ่งเรือง เห็นผลดีทันใจ
เพราะต้องอาศัยอำนาจ บารมีครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้มีฤทธิ์ แผ่ให้ท่าน เป็นวิธีการที่สูง ได้ผลความศักดิ์สิทธิ์แน่นอน ทันตาเห็น
*เหตุที่หลายท่านเคยเปลี่ยนชื่อแล้ว เช่น ไปซื้อตำราตามร้าน ตั้งชื่อเอาเอง ,ดูตามเว็บ แล้วไปเปลี่ยนชื่อมา ชีวิตไม่ดีขึ้นเลย ซ้ำร้ายแย่กว่าเก่า จึงมองว่าการเปลี่ยนชื่อ เป็นเรื่องงมงายไร้สาระ เพราะว่าขาดคุณสมบัติ 3 ประการ คือ 1.ไม่มีประสบการณ์ 2.วิชาไม่ถึงขั้น 3.ไม่รู้พิธีกรรมไหว้ครู ซึ่งเป็นหัวใจของวิชาโหราศาสตร์